หากพูดถึงการดูหนังให้ได้อรรถรสแล้วคงหนีไม่พ้นการดูหนังในโรงภาพยนตร์ ซึ่งหากคุณอยู่ในวัยทำงานการที่คุณจะมีเวลาว่างไปดูหนังได้นั้น ก็ต้องรอเสาร์อาทิตย์เพราะวันธรรมดาคุณก็ต้องทำงาน และพอถึงวันหยุดที่รอคอยมานานก็ดันไม่ใช่วันหยุดของเราคนเดียวซะอีก เพราะผู้คนวัยเดียวกันกับเราก็ดันหยุดเหมือนกัน และก็ดันมีความคิดเดียวกันคือไปดูหนัง เดินเล่น กินข้าว ช้อปปิ้งที่ห้าง และระยะทางจากที่พักของเราไปห้างก็ใช่ว่าจะใกล้ด้วยสิ กว่าจะไปถึงก็ต้องฝ่าแดด ฝ่าฝน ฝ่าลม และที่สำคัญฝ่ารถติด ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก ๆ จึงทำให้คนเหล่านี้ตัดสินใจ นอนอยู่บ้านไม่ไปดีกว่า จึงทำให้บางทีอดดูหนังที่รอคอยมานานเพราะเหตุผลพวกนี้ก็มี
ถึงแม้จะไม่ได้ออกไปไหนแต่การนอนอยู่เฉย ๆ รอดูแค่ละครทางโทรทัศน์ก็ยังไง ๆ อยู่ ในปัจจุบันจึงมีแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้คนในยุคนี้โดยเฉพาะ นั่นก็คือ แอปพลิเคชันในการดูหนังนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายมาก ๆ ซึ่งแต่ละแอปฯก็ตอบโจทย์คนหลากหลายคนแล้วแต่ว่าใครชอบแบบไหน มีทั้ง แอปฯ ดูการ์ตูน ดูหนัง ดูซีรี่ย์ และแอปพลิเคชันเหล่านี้ก็มีทั้งแบบดูฟรีและเสียเงินในการดู ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าถ้ามีดูฟรีเราจะเสียเงินดูแบบเสียเงินทำไม วันนี้เดี๋ยวเรามาดูตัวอย่างหนึ่งในแอปฯ ที่มีทั้งหนังทั้งซีรี่ย์ทั้งการ์ตูนและรายการอื่น ๆ รวมกันในแอปฯเดียวกันและที่สำคัญต้องเสียเงินรายเดือนเพื่อดูด้วย และเมื่อคุณอ่านจนจบคุณจะรู้ว่าทำไมถึงมีคนยอมเสียเงินเพื่อดูมัน และตัวอย่างของแอปฯที่กล่าวถึงนั่นก็คือ Netflixนั่นเอง โดยจะขอกล่าวก่อนเลยว่านี่เป็นแค่ตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพเฉย ๆ ไม่ได้โฆษณาแต่อย่างใด
Netflix คือศูนย์รวมของความบันเทิงแบบครบวงจรเลยก็ว่าได้ เพราะในนั้นมีหนังทุกรูปแบบทั้งใหม่และเก่าและยังมีซีรี่ย์หลากหลายประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นซีรี่ย์ฝรั่ง ซึ่งพออ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะคิดว่าไม่ต่างอะไรกับแอปฯหรือเว็บไซต์ทั่วไป แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปเพราะสิ่งที่แตกต่างจากของทั่วไป คือ
1.ไม่ว่าเน็ตของคุณจะช้าเพียงใด Netflix จะแทบไม่กระตุกเลย เพราะจะปรับภาพให้เหมาะสมกับคุณภาพเน็ตของเรา
2.สามารถโหลดมาไว้ดูแบบออฟไลน์เมื่อคุณไม่มีเน็ตได้
3.ไม่มีโฆษณามาคั่นระหว่างดูให้เสียอารมณ์
4.และข้อสุดท้ายที่ทำให้คนต่างยอมเสียเงินแบบเต็มใจให้ Netflix ก็คือ หนังบางเรื่อง ซีรี่ย์บางซีรี่ย์ คุณไม่สามารถหาดูที่อื่นได้นอกจากใน Netflix เท่านั้น
เป็นไงกันบ้างเห็นตัวอย่างมัลติมีเดียในรูปแบบแอปพลิเคชันดูหนังกันหรือยัง ทีนี้คงรู้แล้วว่าทำไมจึงมีคนยอมจ่ายเงินเพื่อที่จะได้ดูมัน จนมีบางคนขนานนามให้มันว่ามันเกิดขึ้นมาเพื่อปฏิวัติวงการภาพยนตร์กันเลยทีเดียว